Voice TV
http://news.voicetv.co.th/thailand/36623.html
ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ และ นักแสดงนำจากภาพยนตร์ "เชคสเปียร์ต้องตาย" หรือ Shakespeare Must die เข้ายื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อนายกรัฐมนตรี ขอให้ยกเลิกมติเผยแพร่ภาพยนตร์ เพราะมองว่าไม่เป็นธรรมหลังคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ อ้างว่า ภาพยนตร์มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ
นายมานิต ศรีวานิชภูมิ และ นางสาวสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับภาพยนตร์ "เชคสเปียร์ต้องตาย" หรือ "Shakespeare Must Die" พร้อมด้วยทีมนักแสดงนำ เข้ายื่นหนังหนังสืออุทธรณ์ต่อ นาวสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะผู้เป็นประธานคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ให้ยกเลิกมติห้ามเผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว และอนุญาตให้ "เชคสเปียรส์ต้องตาย" มีสิทธิ์เผยแพร่และจัดจำหน่ายในราชอาณาจักรเช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายสาทิตย์ สุทธิเสริม รองผู้อำนวยการฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องอุทธรณ์
นายมานิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3 มีมติห้ามเผยแพร่ภาพยนตร์ โดยอ้างเหตุผลว่า มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ ตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ. 2552 ซึ่งเหตุผลดังกล่าวทางทีมงานรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม และรุนแรงเกินไป
นายมานิต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเรียกร้องความเป็นธรรมครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงทำเพื่อภาพยนตร์ "เชคสเปียร์ต้องตาย" เท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้และเรียกร้องสิทธิให้กับวงการภาพยนตร์ไทย และหวังว่าในอนาคตจะไม่มีภาพยนตร์ถูกแบนเช่นนี้อีก
Produced by voiceTV
นายมานิต ศรีวานิชภูมิ และ นางสาวสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ผู้อำนวยการสร้างและผู้กำกับภาพยนตร์ "เชคสเปียร์ต้องตาย" หรือ "Shakespeare Must Die" พร้อมด้วยทีมนักแสดงนำ เข้ายื่นหนังหนังสืออุทธรณ์ต่อ นาวสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะผู้เป็นประธานคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ให้ยกเลิกมติห้ามเผยแพร่ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว และอนุญาตให้ "เชคสเปียรส์ต้องตาย" มีสิทธิ์เผยแพร่และจัดจำหน่ายในราชอาณาจักรเช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ นายสาทิตย์ สุทธิเสริม รองผู้อำนวยการฝ่ายประสานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องอุทธรณ์
นายมานิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3 มีมติห้ามเผยแพร่ภาพยนตร์ โดยอ้างเหตุผลว่า มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกความสามัคคีระหว่างคนในชาติ ตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์ พ.ศ. 2552 ซึ่งเหตุผลดังกล่าวทางทีมงานรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม และรุนแรงเกินไป
นายมานิต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเรียกร้องความเป็นธรรมครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงทำเพื่อภาพยนตร์ "เชคสเปียร์ต้องตาย" เท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้และเรียกร้องสิทธิให้กับวงการภาพยนตร์ไทย และหวังว่าในอนาคตจะไม่มีภาพยนตร์ถูกแบนเช่นนี้อีก
Produced by voiceTV
0 comments:
Post a Comment