http://www.matichon.co.th/
วันที่ 09 สิงหาคม พ.ศ. 2555 เวลา 15:05:51 น.
หลังมีคำตัดสินว่าภาพยนตร์ นอกกระแสอย่าง "เชคสเปียร์ต้องตาย" ซึ่งดัดแปลงจากบทละครโศกนาฏกรรม "แม็คเบ็ธ" ของ "วิลเลียม เชคสเปียร์" ไม่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ (กองเซ็นเซอร์) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555 โดยได้รับเรท "ห" หรือ ห้ามเผยแพร่ในประเทศไทย
ล่าสุด ทางผู้อำนวยการสร้างและเจ้าของลิขสิทธิ์ ได้ออกคำแถลงการณ์เรื่องการยื่นฟ้องคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ แล้ว มีเนื้อหาดังนี้
ข้าพเจ้านายมานิต ศรีวานิชภูมิ และนางสาวสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ร่วมกันเป็นผู้ฟ้องคดี โดยมีผู้ถูกฟ้อง คือ คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะประธานกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ และคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3 ได้ร่วมกันไม่อนุญาตให้ภาพยนตร์เรื่อง "เชคสเปียร์ต้องตาย" ซึ่งแปลจากบทประพันธ์โดยกวีเอกของโลก วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ เรื่อง The Tragedy of Macbeth ให้เผยแพร่ในราชอาณาจักร ด้วยเหตุผลดังนี้
1 .คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ คณะที่ 3 ไม่อนุญาตด้วยเหตุผลว่า มีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการแตกสามัคคีระหว่างคนในชาติ ทั้งที่เหตุผลดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย และในสังคมไทยมีเหตุการณ์ที่มีการเข่นฆ่าประชาชนเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน อาทิ เช่น เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 , เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519, เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 และกรณีสงครามยาเสพติดที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,500กว่าคน (1 กุมภาพันธ์ ถึง 30 เมษายน 2546 ) เป็นต้น ซึ่งเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นย่อมเป็นความรุนแรงของสังคมไทย ที่มิอาจลืมเลือนหรือปกปิดไว้ได้แต่อย่างใด โดยชนชาวไทยสมควรมาเรียนรู้ร่วมกัน เพื่อร่วมมือกันมิให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก
2 .คณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการชุดดังกล่าว ไม่อนุญาตด้วยเหตุผลว่า "มีบางฉากมีเนื้อหาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน" หรือ "อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ และเกียรติภูมิของประเทศ" ทั้งที่เหตุการณ์ความรุนแรงเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยหลายครั้ง หลายหน สมควรเป็นบทเรียนตามข้อ 1 .ส่วนเหตุผลความมั่นคงของรัฐนั้น หมายถึง "รัฐชาติ" มิใช่รัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง และเกียรติภูมิของประเทศก็เช่นกัน มิใช่เกียรติภูมิของรัฐบาลใดรัฐบาลหนึ่ง
ดังนั้น ผู้ฟ้องคดีทั้งสองจึงขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเพิกถอนมติและคำสั่งของผู้ ถูกฟ้องทั้งสอง ที่ห้ามฉาย ห้ามจัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่อง "เชคสเปียร์ต้องตาย" ในราชอาณาจักร และเรียกร้องค่าเสียหายจากเงินทุนที่ใช้ในการสร้างภาพยนตร์ เรื่องดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นถึงวันฟ้อง เป็นจำนวน 7,530,388.55 บาท (เจ็ดล้านห้าแสนสามหมื่นสามร้อยแปดสิบแปดบาทห้าสิบห้าสตางค์) ส่วนค่าใช้ จ่ายอันเป็นค่าตอบแทนส่วนตัว ในกระบวนการผลิตภาพยนตร์ของผู้ฟ้องทั้งสอง และค่าเสียหายจากการเสื่อมเสีย ชื่อเสียงด้วยเหตุผลที่ผู้ถูกฟ้องอ้างและค่าเสียโอกาสในการร่วมลงทุนสร้าง ภาพยนตร์กับบุคคลอื่น ผู้ฟ้องคดีทั้งสองไม่ติดใจเรียกร้องแต่อย่างใด
0 comments:
Post a Comment